ธีรศิลป์ แดงดา หรือเจ้ามุ้ย ยอดกองหน้าทีมชาติไทย และเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ย้ายไปร่วมทีม ซานเฟรซเช่ ฮิโระชิมะ ของลีกสุดสุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลงานของ ฮิโระชิมะ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ( 2017 ) ไม่ค่อยสู้ดีนัก ซึ่งจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 15 และมีคะแนน เหนือทีมตกชั้น อย่างเวนฟอเรท โฟคุ อันดับที่ 16 เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ( เจลีก 1 มีทีมทั้งหมด 18 ทีม 3 ทีมท้ายตาราง ตกชั้น )
ซานเฟรซเช่ ฮิโระชิมะ มีฉายาว่า ทีมหมีมหาภัย หรือ ลูกศรม่วง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1992 หรือ พ.ศ. 2535 ประสบความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์เจลีก 1 ( เจลีก ดิวิชั่น 1) ในปี 2012 2013 2015 และ คว้าแชมป์บอลถ้วย เจแปนนิส ซุปเปอร์คัพ 3 ครั้ง ในปี 2008 2013 และ 2014
แต่ผลงานของ ฮิโระชิมะ กลับร่วงถอยหลังลงเรื่อยๆ หลังจากคว้าแชมป์ เจลีก 1 ในปี 2015 ด้วยคะแนน 77 คะแนน ... ในปี 2016 จบอันดับที่ 6 ด้วยคะแนน 55 คะแนน และ ปี 2017 จบอันดับที่ 15 ด้วยคะแนน 33 คะแนนเท่านั้น ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล ด้วยผลงานลุ้นแชมป์ ร่วงลงมาเป็นหนีตกชั้น เพียงไม่กี่ปี
ธีรศิลป์ แดงดา ในวัย 29 ย่าง 30 ปี กับการเดินทางไปเล่นในลีกต่างแดน มันเป็นช่วงเวลาที่เขา ต้องเอาประสบการณ์ในการเล่นกีฬาฟุตบอลทั้งหมดที่มี ไปเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ สำหรับนักฟุตบอลที่มีวินัยการฝึกซ้อมที่ยอดเยี่ยม และการใช้ชีวิตนอกสนาม ที่นักฟุตบอลรุ่นน้องต้องเอาเป็นแบบอย่าง การได้เดินทางไปค้าแข้งกับทีมบิ๊กเนม ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ อัลเมเรีย เชื่อว่า การที่เจ้ามุ้ยเจอของแข็ง และผ่านร้อนผ่านหนาว บนเส้นทางถนนสายลูกหนังแบบโชกโชน ทำให้การเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดแดนปลาดิบ เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปนักสำหรับการเข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอล ซานเฟรซเช่ ฮิโระชิมะ
ในฤดูกาล 2017 ฮิโระชิมะ สามารถทำประตูรวมได้เพียง 32 ประตู จากการเล่นทั้งหมด 34 นัด อัตราเฉลี่ยการได้ประตู ต่อการเล่น 1 นัดของทีม อยู่ที่ 0.94 เท่านั้น นั่นแสดงว่า ทีมหมีมหาภัย ประสบปัญหา "ปืนฝืด" การแก้ปัญหาที่ หลายๆคนมองผิวเผินว่าเป็นเรื่องของการตลาด เกี่ยวกับการยืมตัว ธีรศิลป์ ไปร่วมทีม 1 ฤดูกาล ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการตลาดด้วย ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวที่สุด "แฟนบอลชาวไทย เริ่มสนใจทีม ซานเฟรซเช่ ฮิโระชิมะ มากขึ้น เนื่องจาก ต้องการเฝ้าติดตามนักฟุตบอลไทยที่เขาชื่นชอบ " แต่เรื่องของการตลาด ณ วินาที นี้ เป็นแค่เรื่องรอง เพราะเรื่องหลักก็คือ ธีรศิลป์ กำลังพิสูจน์ให้แฟนบอลชาวไทย และแฟนบอลชาวญี่ปุ่น เห็นว่าเขาคือ "ของจริง" ด้วยการประเดิมสนามนัดแรก แล้วใช้โอกาสเพียงไม่กี่ครั้งที่ได้รับ "โหม่ง" ทำประตู และสร้างประวัติศาสตร์นักฟุตบอลไทยคนแรกที่ทำประตูได้ จากการไปเล่นในเจลีกดิวิชั่น 1
แฟนบอลชาวไทยส่วนใหญ่ ให้กำลังใจนักฟุตบอลทั้ง 5 คน ที่ไปเล่นเจลีกในครั้งนี้ แต่ก็มีกลุ่มที่เห็นต่าง "เฝ้าดูความล้มเหลว" ซึ่งไม่น่าเชื่อ ว่าจะมีแทรกเข้าไปทุกอณู ของเวทีแสดงความคิดเห็นของโลกโซเชี่ยว ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า วลีเด็ดที่ได้จาก กลุ่ม นักวิพากษ์วิจารณ์คีย์บอร์ด ที่บางครั้งก็ทำตัวเสมือน "โค้ช" หรือ "ผู้รู้แจ้งเห็นจริง" ในวงการฟุตบอล ทำตัวเหมือนสุภาษิตที่ว่า "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ" ยกตัวอย่าง... อย่าอวยกันให้มาก...เดี๋ยวก็ไปไม่รอด...ฯลฯ บางคนก็ขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักฟุตบอล มาเป็นประเด็นให้เกิดกระแส โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นความโด่งดังของตัวเอง... ช่วงเวลาที่ดี มีคนสรรเสริญเยินยอ ช่วงเวลาที่แย่จะมีซักกี่คนที่อยู่เคียงข้าง...เป็นนักฟุตบอลชื่อดัง แต่ต้องอยู่ห่างบ้านเกิดเมืองนอน สิ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือ "กำลังใจ" .. แต่ปัจจุบัน พวกพูดหรือพิมพ์ไม่คิด มันมีเยอะ เยอะถึงขนาดว่า ใครกำลังผิดพลาด อ่อนแอ กลุ่มคนพวกนี้พร้อมจะเหยียบคุณให้จมดิน
แสดงความคิดเห็น
