ระบบการเล่นฟุตบอลเริ่มต้นสำหรับทีมฟุตบอลใหม่
การเล่นฟุตบอล 11 คน ผู้จัดการทีมหรือโค้ช ย่อมต้องวางตัวนักกีฬาฟุตบอล ในตำแหน่งต่างๆ และ การวางตำแหน่งผู้เล่นแดนหน้า แดนกลาง และ แดนหลัง ย่อมมีผลต่อรูปเกม
สำหรับทีมฟุตบอลส่วนใหญ่ จะเลือกใช้ระบบ 4-4-2 คือ
กองหลัง 4 คน กองกลาง 4 คน กองหน้า 2 คน และเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้ในการเล่นกีฬาฟุตบอล ของทีมฟุตบอลส่วนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ
ด้วยความเป็นแผนพื้นฐานยอดนิยม โค้ชและผู้จัดการทีม จึงมักนำมาใช้กับระบบการเล่นของตน หารู้ไม่ว่า การเล่นในระบบแผงหลัง 4 คนนั้น หากไม่มีการฝึกซ้อมหรือทำความเข้าใจที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมที่ เพิ่งรวบรวมนักฟุตบอลขึ้นมาใหม่ ในระดับสมัครเล่น มักสร้างความปั่นป่วน และสับสนให้กับนักฟุตบอลอย่างมากมาย
ปัญหาและอุปสรรค ที่พบได้บ่อยคือ
1. นักกีฬาฟุตบอลในตำแหน่งกองหลัง มีการเช็คล้ำหน้า ในแดนของตนบ่อยขึ้น เนื่องจากระบบ 4-4-2 เป็นระบบแผนการเล่นที่สัมพันธ์กับการเช็คออฟไซด์ด้วย หากขาดความเข้าใจ จะเพิ่มโอกาสในการเสียประตูอย่างไม่จำเป็น
2. มักมีความสับสนของ ระหว่างผู้เล่นตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ค ที่ยืนคู่กลาง ในการรักษาระยะ ความห่าง ระยะการยืน( ยืนอยู่ใกล้กันเกินไป)

จากภาพ หากผู้เล่นในตำแหน่ง CB( หรือเซ็นเตอร์แบ็ค ทั้ง 2 คน ) ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน มันคือหายนะของทีมดีๆนี่เองครับ
และการเติมเกมรุกของ LB หรือ RB ( แบ็คซ้าย,แบ็คขวา ) ในระบบนี้ มักเป็นจุดที่ถูกทีมฝ่ายตรงข้ามโจมตี หรือสวนกลับได้โดยง่าย หากขาดการฝึกซ้อมทดแทนตำแหน่งจากผู้เล่นแดนกลาง ซึ่งต้องมีการทำความเข้าใจระหว่างผู้ฝึกสอน และผู้เล่นจนเกิดความชำนาญและเป็นวินัยในการเล่นเสียก่อน

ระบบการเล่นที่ ขอแนะนำว่า สร้างความสับสนให้กับผู้เล่นน้อย และเหมาะสมกับทีมฟุตบอลใหม่ๆ ในการวางตำแหน่งผู้เล่น คือระบบ 5-3-2
เป็นการเล่นที่ใช้แผงหลัง มากขึ้นมาหน่อยครับ คือ 5 ตัว เพิ่มเติมคือ ผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังตัวสุดท้าย ที่เรียกว่า sweeper จะยืนอยู่ต่ำกว่าผู้เล่นทุกคน ดังภาพจะเป็น heitinga
ความโดดเด่นของระบบนี้ คือเกมรับ ซึ่งมี สต๊อปเปอร์ จำนวน 2 คน คือ dejong และ v.Bommel เป็นตัวชน ตัวประกบหรือตัวตัดเกม ที่ทำให้ง่ายต่อการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ในซีกซ้ายและซีกขวา ในแดนของตนเอง โดยมี hetinga เป็นกองหลังตัวสุดท้ายที่คอยเก็บบอล โดยไม่ต้องพะวง หรือสนใจ การเช็คล้ำหน้า เหมือนระบบ 4-4-2
หน้าที่หลักของกองหลังตัวสุดท้าย ไม่ใช่ตัดบอลเอง หากแต่ให้เก็บบอล จากการชนหรือเข้าปะทะ ของ ผู้เล่นตำแหน่งสต๊อปเปอร์ ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของตนเอง การยืนตำแหน่งจึงต้องยืด ถอนตัวเอง ต่ำลงมาห่างจากผู้เล่นสต๊อปเปอร์ ไม่ใช่ยืนเสมอหรือยืนใกล้ๆ
และระบบ 5-3-2 นี้ แบ็คขวาและแบ็คซ้าย สามารถเติมเกมรุกได้เกิดประสิทธิภาพมากกว่า ระบบ 4-4-2 ผลมาจากมีผู้เล่นในตำแหน่งสต๊อปเปอร์ ถึง 2 คน ที่แสตนด์บายรออยู่แล้ว คิดง่ายๆ ว่า เติมเกมรุกไป 1 คน ก็ยังเหลือแดนหลัง อีก 4 เหมือนเดิม
ที่สำคัญที่สุด แผนนี้ ไม่เหมาะกับการเล่นพิเศษ คือเช็คล้ำหน้า สำหรับผู้เล่นมือใหม่ ผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน ควรเน้นย้ำในเรื่องของการรักษาตำแหน่งของผู้เล่นแผงหลังมากที่สุด
จุดอ่อน...
คงเป็นเรื่องของเกมรุก ซึ่งการขึ้นบอลด้านริมเส้น จำเป็นต้องใช้ผู้เล่นในตำแหน่ง แบ็คซ้าย และแบ็คขวา ผู้เล่นทั้งสองตำแหน่ง มีความจำเป็นที่จะต้องมีพลกำลังที่ดี สามารถขึ้นและลง เปลี่ยนจากรุกเป็นรับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากผู้เล่นไม่มีความฟิต ก็จะลดมิติของเกมรุก ง่ายต่อการคาดเดาหรือป้องกันจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
ที่เขียนมาทั้งหมด สรุปก็คือ
แผนการเล่นที่ทีมใหม่ๆ ที่พวกเพื่อนอาจไม่ได้ฝึกซ้อมร่วมกัน นานๆที รวมตัวกันเล่น หรือสำหรับคนทำทีมฟุตบอลควรนำไปใช้กับทีม ที่มีความสัมพันธ์ระหว่างทีมหรือความเข้าใจกันน้อย เนื่องจากระบบ 5-3-2 เป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน หากเปรียบเทียบกับระบบ 4-4-2 หรือระบบ แบ๊กโฟร์ ซึ่งผมหรือหลายๆ ที่เล่นฟุตบอลมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผงหลัง มักเกิดความสับสนได้โดยง่ายครับ