ปรับวิธีการเล่นฟุตบอลตามอายุที่มากขึ้นซะ!!!

คลิกเพื่อแสดงความคิดเห็น

ปรับวิธีการเล่นฟุตบอลตามอายุที่มากขึ้นซะ!!!

พูดถึงชีวิตการค้าแข้งของนักฟุตบอลที่ผมเคยบอกอยู่หลายๆครั้งว่า ระยะเวลาของการเล่นฟุตบอลของเราเพื่อการแข่งขันแบบจริงจัง .... มันช่างสั้นนัก.. หากไม่นับการเล่นฟุตบอลเพื่อแข่งขันรายการอาวุโส หรือ การร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการเล็กๆ ที่จัดตามแต่ละท้องถิ่น หรือเพื่อการออกกำลังกาย...  อาชีพนักฟุตบอล มีเวลาให้เราพัฒนาตัวเองแบบจริงๆจังๆเพียงไม่นาน หากท่านนั่งอยู่กับที่ ผมรับรองว่า จะเสียดายเวลาที่เราได้ปล่อยผ่านไป

วิธีการเล่นฟุตบอลเมื่ออายุมากขึ้น

ในบทความนี้ ผมจะขอพูดถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นของนักฟุตบอล ตามอายุที่มากขึ้น การเจริญเติบโต พัฒนาการทางด้านร่างกายหยุดชะงักและถอยหลังลงไปวันแล้ววันเล่า..ถ้าจำไม่ผิด นักฟุตบอลระดับโลก เขาจะเป็นดาวจรัสแสงเมื่ออายุประมาณ 17-18 ปี ...พอมาถึงช่วงอายุ 20-25 ปี ก็จะเป็นช่วงที่ถือว่าเป็นจุดสุดยอดของอาชีพการค้าแข้ง..หลังจากนั้นระหว่างอายุ 25-30 ปี เป็นช่วงที่ใช้ประสบการณ์ บวกกับความสามารถที่มีอยู่ผสานกันได้อย่างลงตัว.. แต่พอตัวเลข 3 ของอายุ นำหน้า ประสบการณ์บวกกับวินัยด้านการดูแลร่างกาย รักษาความฟิตจะช่วยยืดระยะเวลาของอาชีพนักฟุตบอลของคุณได้นานขึ้น  ... 

เล่นฟุตบอลเมื่ออายุมากขึ้น คนแก่เล่นบอล คนแก่ดูบอล

จากที่คุณเคยมีจุดเด่นในเรื่องความเร็ว ความคล่องตัว แน่นอนครับ.. พออายุ 30 ปี ขึ้นไป ความเร็วความคล่องตัว มันเริ่มจะไม่ใช่จุดเด่นของคุณอีกต่อไปแล้ว...หลักเหลี่ยม การใช้สมองมากกว่าแรงกาย จึงต้องเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ ..  ไรอั้น กิ๊ก ตำนานนักฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จุดเด่นของเขาระหว่างอายุ 20-30 ปี คือความเร็วและการลากเลื้อยแบบกระชากวิญญาณ ...เมื่อความเร็วของเขาลดลง ความคล่องตัวลดลง... สิ่งที่เขาทำเพื่อยืนอยู่ในสนามในฐานะผู้เล่น 11 ตัวจริงได้ ... คือการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น โดยนำบางสิ่งบางอย่างมาทดแทนจุดเด่นที่กำลังจะกลายเป็นจุดด้อย

สังเกตนักฟุตบอลระดับกึ่งอาวุโส หรืออาวุโส หลายๆคน  มักจะรับไม่ได้ที่จะโดนนักเตะวัยหนุ่มกระชากลากเลี้ยง ฉีกหนี ที่ทำให้พวกเราต้องวิ่งตามก้น เห็นแค่เบอร์ข้างหลังเท่านั้น .. เพราะสมัยก่อน คุณยังยึดติดกับคำว่า  ..." แต่ก่อนผมเร็วกว่านี้อีก.."  " ..ถ้าเป็นสมัยก่อนไม่มีทางเลี้ยงหลบผมได้หรอก .."  ... รวมทั้งตัวผมเอง..  ที่แต่ก่อนเป็นกองหลังที่พร้อมจะวิ่งแซงกองหน้า ก็เพราะช่วงเวลา สภาพร่างกายและอายุมันให้

..... 

อันดับแรกของการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นฟุตบอลก็คือ.." ความคิด "...   หลังจากนั้น เราต้องรู้ตัวเอง สำรวจจุดเด่น จุดด้อยขึ้นมาใหม่่..แล้วก็พัฒนาในจุดที่ด้อยลงให้มีมาตรฐานดียิ่งขึ้น... ซึ่งการเรียกความฟิตของคนอายุมากกว่า 30 ปี  หากมีการฝึกฝนฝึกซ้อมอย่างมีวินัย..  แม้จะไม่กลับมาดีเหมือนช่วงอายุ 17-18 ปี  แต่ก็ใกล้เคียงนะ จาก 100 เปอร์เซ็นต์ ได้สัก 80 เปอร์เซ็นต์ที่เคยทำได้ก็หรูแล้วครับ

....

แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ ในทีมฟุตบอลที่ไม่ยอมรับความจริง  ในทีมไม่มีผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามาสับเปลี่ยนหมุ่นเวียน หรือทดแทนนักฟุตบอลดาวร่วง ยังคงยึดติดกับผู้เล่นตัวเดิมๆ ความเข้าขาเดิมๆ ผ่านไปกี่ปีกี่ปี ก็ยึดตัวผู้เล่นเก่าๆ เพราะไม่กล้าจะยอมรับการแข่งขันกับผู้เล่นตัวหนุ่ม หรือกลัวตำแหน่ง เสียตำแหน่งตัวจริง.. จึงไม่เปิดโอกาสให้เด็กๆลงไปวาดลวดลาย..  ผมมองอนาคตทีมนี้ได้เลยว่า เอาดีด้านบอลอาวุโสได้ .. แต่ไม่สามารถที่จะสร้างทีมให้ยาวนาน มีเลือดใหม่เลือดเก่าได้

....

นานมาแล้ว....ผมเคยไปร่วมทีมกับทีมทีมหนึ่ง ซึ่งผมไม่รู้จักใคร และใครก็ไม่ค่อยรู้จักอะไรกับตัวผม... สิ่งที่ผมต้องการทำและมุ่งมั่นคือ.. การตั้งใจซ้อมและรักษาระเบียบวินัย ..มีการทำการบ้านสำหรับตัวเอง..  เป็นสิ่งที่ผมต้องการแสดงให้กับเหล่าสต๊าฟโค้ชและเพื่อนร่วมทีมได้เห็น..และให้พวกเขายอมรับ...

สิ่งแรกคือ ความตรงต่อเวลา นัด 16.00 น. ผมเลือกที่จะไปถึงสนามเปลี่ยนเสื้อผ้ารองเท้า..เวลา 15.30 น. ...เพราะผมจะไม่มีทางให้ใครมาว่า " วินัยเรื่องความตรงต่อเวลา" ของผมโดยเด็ดขาด..  เมื่อเจอโค้ช.. ผมจะถามทันทีว่า ผมต้องทำอะไรก่อน ต้องวิ่งก่อนไหม ต้องฝึกอะไร... ผมจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ในฐานะ คนที่พร้อมจะทำเพื่อทีมอย่างเต็มที่

แต่กระนั้น ภาพที่ผมเห็น และชวนให้ท้อแท้เล็กๆ คือ นัดหมายเวลา 16.00 น. แต่มากัน 16.30 น.... อันนั้นก็ไม่เป็นไร  ผมคิดว่า ผมวิ่ง ผมได้ ผมซ้อมผมได้ ผมฝึกมันก็เป็นของผม...

มาถึงตรงนี้ ...อยากจะบอกให้โค้ชทั่วประเทศไทยได้รู้เกี่ยวกับการจัดตัวผู้เล่น..  ผมไม่อยากให้เป็นมะเร็งร้ายทำลายทีม..  เพราะครั้งนั้น ในเวลาการแข่งขัน...โค้ชและผู้ฝึกสอน ได้เลือกผู้เล่นที่มาซ้อมไม่ตรงต่อเวลา ไม่มีสภาพความฟิต ...และที่สำคัญ ได้สร้างข้อผิดพลาดในการแข่งขัน เป็นสาเหตุให้ทีมพบกับความพ่ายแพ้... ผมนั่งอยู่ข้างสนาม เฝ้าดูคนที่ไม่มาซ้อม ไม่ทุ่มเท ไม่ตรงต่อเวลา เล่นอยู่ในสนาม..เดิมทีผมก็ไม่พอใจอยู่แล้ว...  แต่เขาคนนั้น ทำให้ทีมของผม ทีมของเพื่อนๆ ที่ตั้งใจซ้อมกันอย่างบ้าคลั่ง ต้องพ่ายแพ้ลง.... เพราะอะไรหน่ะหรือ...

ก็เพราะว่า โค้ชให้ลงเพราะ นักฟุตบอลคนนี้ " เคยเล่นได้ เคยฟิต เคยเร็ว เคยคล่อง ......."  แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แล้ว....   มาตรฐานการคัดตัวนักฟุตบอลลงสนามในครั้งนั้นคาใจผมมาก และผมต้องขอออกจากทีมโดยเร็ว...      

หากว่าแพ้... ผมก็อยากให้ทีมพ่ายแพ้ จากผู้เล่นที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นเพื่อทีมมากกว่า...

หากคุณเอาตัวที่ไม่ซ้อมแต่เก่งลง...แมตซ์นั้นคุณอาจชนะ..แต่แมตซ์ต่อๆไป... มันจะมีแต่คำว่าแพ้อย่างเดียว

หากว่าคุณเอาตัวนักฟุตบอลที่ไม่เก่งแต่มุ่งมั่นตั้งใจ... 10 นัดแรก คุณอาจจะมีแต่แพ้...แต่หลังจากนั้น " มันจะเป็นชัยชนะที่ยืนยาว "

............

คนที่เคยเล่นได้ทั้งหลาย หากคุณอยากลง คุณต้องซ้อมให้หนักไม่แตกต่างจาก น้องๆที่เข้ามาร่วมทีมใหม่ๆ  ไม่ต้องหนักถึงขนาดเด็กๆก็ได้ เพียงแต่ว่า พวกเขาต้องการแบบอย่างที่ดีจากนักเตะอาวุโสอย่างคุณ...

" แบบทดสอบความฟิตสำหรับนักฟุตบอล" มันก็มีให้ประเมินสภาพร่างกายนักเตะอยู่...  แต่ในทีมระดับต่ำๆ มักมองข้าม เน้นการเอาชนะไปวันๆ ไม่ใช่ระยะยาว..อันนี้คือเรื่องจริง

...คุณเคยเป็นคนที่เร็ว จัดจ้าน แต่หากคุณอายุมากขึ้น ก็ขอให้ลากเลื้อยน้อยลง จับจ่ายบอลให้มากขึ้น ประสบการณ์ช่วยได้เยอะ

เท่าที่ฝากไว้อาจยาวหน่อย อ่านๆกันไว้นะครับ สำหรับผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลอาวุโส..  มันเป็นเสียงสะท้อนที่ใครหลายๆคนอยากพูด ผ่านช่องทาง ball2night.com แห่งนี้..

 

 



แสดงความคิดเห็น



© 2021 ball2night.com, All rights reserved   View Stats